0 items - ฿0 0

ผิวหนัง สำคัญอย่างไร ? มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น

ผิวหนัง ถือได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใหญ่ที่ปกคลุมห่อหุ้มทั่วร่างกายของเรา ภายในมีปลายประสาทรับความรู้สึกจำนวนมากในการรับรู้การสัมผัสต่างๆ ความรู้สึกเจ็บและอุณหภูมิร้อนเย็น ระบบผิวหนังมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และยังมีหน้าที่เป็นอวัยวะขับเหงื่อกับไขมันด้วย ผิวหนังมีความยืดหยุ่นได้มาก เพราะบนผิวหนังมีรูเล็กๆ อยู่ทั่วไป ซึ่งเรียกว่ารูเปิดของขุมขน ท่อของต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ ผิวหนังที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มีรอยนูนเป็นสันจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ปลายนิ้วมือทั้งห้ามีสันนูนเรียงกันเป็นร้อยหวาย หรือก้นหอย  โครงสร้างของผิวหนังมีส่วนประกอบ  3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutis) ในแต่ละชั้นจะแบ่งเป็นชั้นย่อยๆ อีกหลายชั้น และมีต่อมต่างๆ อีกมากมาย เช่น ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน เป็นต้น ซึ่งจะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1.หนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นของผิวหนังที่ปกคลุมอยู่บนสุดหรือภายนอกสุด หนาตั้งแต่ 0.3 ถึง 1 มิลลิเมตร ประกอบไปด้วยเซลล์ที่มีการเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ และเกิดใหม่อยู่เสมอ โดยที่เซลล์ใหม่จะถูกสร้างจากชั้นล่างสุดติดกับหนังแท้ เมื่อเจริญเติบโตขึ้นแล้วก็จะเคลื่อนตัวมาทดแทนเซลล์ที่อยู่ชั้นบนจนถึงชั้นบนสุด จากนั้นก็กลายเป็นขี้ไคล (Keratin) หลุดลอกออกไป นอกจากนี้ที่ชั้นหนังกำพร้ายังมีเซลล์สร้างเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ปะปนอยู่ด้วย เมลานินจะมีจำนวนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและเชื้อชาติ ที่ทำให้สีผิวของทุกคนไม่เหมือนกัน ในชั้นของหนังกำพร้าไม่มีหลอดเลือด เส้นประสาท และต่อมต่างๆ นอกจากเป็นทางผ่านของรูเหงื่อ เส้นขน และไขมันเท่านั้น  2.หนังแท้ (Dermis) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นถัดไปจากหนังกำพร้า แต่หนากว่าหนังกำพร้ามากประกอบด้วยเส้นใยพังผืดเป็นส่วนใหญ่ประสานไขว้กันไปมาและโปรตีนหลัก 2 ชนิด คือ เนื้อเยื่อคอลลาเจน (Collagen) เนื้อเยื่ออีลาสติน (Elastin)  โดยคอลลาเจน จะทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงให้กับผิวหนัง และช่วยในการซ่อมแซม ฟื้นฟูสภาพผิวหนังที่บาดเจ็บซึ่งหากสร้างในปริมาณมากเกินไปก็จะเกิดเป็นแผลเป็นนั่นเอง ส่วนอีลาสติน ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และในชั้นหนังแท้นี้ก็ยังเป็นที่อยู่ของ หลอดเลือดขนาดเล็ก เส้นประสาท กล้ามเนื้อเกาะเส้นขน ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ ท่อน้ำเหลือง เซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblast) ซึ่งเป็นตัวที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน 3.ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous tissue) หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) เป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุดประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก  ชั้นนี้จะมีโครงสร้างของเส้นใยคอลลาเจนและเซลล์ไขมัน ช่วยในการเก็บสะสมพลังงานความร้อนไม่ให้สูญเสียออกนอกร่างกาย ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล ชั้นนี้ทําหน้าที่คล้ายฉนวนกันความร้อนให้ร่างกาย ช่วยลดแรงกระทบกระแทกจากภายนอก และชั้นไขมันที่มีมากโดยเฉพาะบริเวณสะโพก เอว ต้นขา ที่เรียกว่าเซลลูไลท์ (Cellulite) ก็คือไขมัน ที่มีเนื้อเยื่อคล้ายพังผืดแทรกอยู่จึงก่อให้เกิดการดึงรั้งผิวหนังเห็นเป็นลอนๆ…

Read more