รู้หรือไม่? รังสีอินฟราเรดศัตรูทำร้ายผิวมากกว่าที่คุณคิด

สาวๆ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า 54% ของแสงแดดที่ตกกระทบมายังโลกเรานั่นเป็นรังสีอินฟราเรด (Infrared) ลองลงมาคือVisible light 39% และUVA/UVB อีก7% แต่สงสัยไหมคะว่าทำไมเราต้องไปโฟกัสการปกป้องผิวจากแสงแดดที่เรียกว่าUVA/UVB เป็นหลัก นั่นก็เพราะว่า รังสีUVA/UVB สามารถทะลุผ่านผิวหนังเราได้ถึงชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ มีผลโดยตรงต่อผิวหนังของมนุษย์ ทำให้เม็ดสีในผิวหนังเปลี่ยนแปลง รวมถึงก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง เปรียบเสมือนหน้าบ้านของผิวเรานั่นเอง จะมีกระฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยที่เกิดจากแดดก็จะโชว์กันที่ชั้นบนนี่แหละค่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรังสีจากแดดอีกตัวที่สามารถทำลายเราได้ลึกกว่าไม่ใช่แค่ชั้นหนังกำพร้า แต่สามารถทะลุลงไปทำลายผิวหนังเราได้ในระดับเซลล์ผิว และเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวสวยของคุณ นั่นคือ รังสีอินฟราเรด

ผลกระทบจากรังสีอินฟราเรดส่วนใหญ่จะมีผลต่อชั้นบรรยากาศ ทำให้ชั้นบรรยากาศมีความอบอุ่นหรือร้อนขึ้น ส่วนในมนุษย์ และสัตว์ รังสีอินฟราเรดจัดเป็นรังสีที่อยู่ใกล้ตัวเรา และเราสัมผัสอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว จากที่ทราบกันดีแล้วว่ารังสีอินฟราเรดจะแสดงออกมาในรูปแบบของความร้อน เมื่อเรารู้สึกร้อนเวลาโดนแสงแดดหรือเวลาเราอยู่ใกล้ไฟ นั่นเท่ากับว่าเราสัมผัสกับรังสีอินฟราเรดได้ ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าไม่เพียงแต่รังสีจากแสงแดดเท่านั้น ในชีวิตประจำวันเราทุกคนสัมผัสรังสีอินฟราเรดได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกมากมาย เช่น คอมพิวเตอร์, หลอดไฟชนิดทังสเตน, เตาอบ, ไดร์เป่าผม เป็นต้น จึงนับได้ว่ารังสีอินฟราเรดเป็นรังสีที่น่ากลัวเป็นอันดับต้นๆ ของการทำร้ายผิว หากได้รับรังสีอินฟราเรดติดต่อกันเป็นเวลานานซึ่งไม่เพียงแต่ทำร้ายผิวภายนอกจนเกิดรอยดำ คล้ำ ดำกร้าน แสบร้อน เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และร่างกายขาดน้ำ หรือเหี่ยวก่อนวัย หากได้รับติดต่อกันนานพร้อมกับมีความเข้มสูงจะทำให้ผิวแสบร้อนรุนแรง และเกิดรอยไหม้ของผิวได้ และมีโอกาสลุกลามก่อให้เกิดโรคมะเร็วผิวหนัง เป็นภัยร้ายที่ไม่รู้ตัวได้

อันตรายจากรังสีอินฟราเรด

1.ผิวหนังไหม้แดด
เนื่องจากในแสงแดดนั้น มีรังสีอินฟราเรดซึ่งก่อให้เกิดความร้อนได้สูง ซึ่งสำหรับผู้ที่อยากมีผิวสีแทน แล้วไปอาบแดด อาจจะได้ผิวไหม้มาเป็นของแถม ซึ่งจะทำให้เซลล์ผิวหนังของเราถูกทำลายได้ง่าย

2.ทำให้ผิวเหี่ยวย่น
ความร้อนจากแสงแดดที่แฝงไปด้วยรังสีอินฟราเรด เป็นตัวการสำคัญในการทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้นในชั้นผิวให้หมดไป จึงส่งผลทำให้ผิวเหี่ยวย่นดูแก่ก่อนวัย

3.มะเร็วผิวหนัง
การปล่อยผิวหนังให้ต้องเผชิญกับแสงแดดจัด ซึ่งเต็มไปด้วยรังสีอินฟราเรดเป็นเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่ ล้วนเกิดจากแสงแดดทั้งสิ้น

การหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกทำลายจากรังสีอินฟราเรด เพราะในแสงแดดไม่ได้มีแค่รังสียูวี แต่ยังเต็มไปด้วยรังสีอินฟราเรดที่เราสามารถสัมผัสได้ในรูปความร้อนอีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว ถ้าไม่อยากให้ผิวสวยของคุณได้รับผลกระทบจากรังสีดังกล่าวก็พยายามหมั่นหลีกเลี่ยงแสงแดดเข้าไว้จะดีที่สุด โดยอาจจะใช้ตัวช่วยอย่างการสวมหมวก กางร่ม และสวมเสื้อคลุมแขนขาวปกป้องผิวอีกทางหนึ่งก็ได้  หรือแม้กระทั่งการเลือกทาครีมกันแดดก็ต้องหันมาเลือกครีมกันแดดที่ไม่ใช่แค่สามารถปกป้องได้เพียงรังสีUVA/UVB เท่านั้น แต่ต้องสามารถปกป้องรังสีอินฟราเรดได้ด้วยนะคะ ทั้งหมดก็เพื่อหลีกเลี่ยงศัตรูที่สามารถทำร้ายผิวสวยๆ ของเราได้นั่นเองค่ะ